วิธีขจัดอุปสรรคเพื่อให้ทำงานที่บ้านได้ผลดี

วิธีขจัดอุปสรรคเพื่อให้ทำงานที่บ้านได้ผลดี

หลายคนเริ่มทำงานจากที่บ้านมาพักใหญ่แล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเลยเพราะมีอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนของลูก ๆ การทำงานบ้านที่ไม่จบไม่สิ้น หรือสัตว์เลี้ยงตัวป่วนป้วนเปี้ยนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำให้เสียสมาธิ วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้คือการปรับสภาพพื้นที่ทำงานให้มีสภาพแวดล้อมแบบโฮมออฟฟิศที่ช่วยให้ได้ทำงานจริง ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับทำงานที่บ้านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จกัน

1.เริ่มต้นตื่นแต่เช้า ก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปออฟฟิศอย่างไร ควรตื่นตอนเช้าให้รู้สึกเหมือนพร้อมจะไปทำงาน กำหนดรายการสิ่งที่ต้องทำ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่ตื่นนอน เราทำอะไรได้มากมายในช่วงเช้าตรู่ เริ่มจับงานชิ้นแรกแล้วทยอยทำไปทีละอย่างตลอดทั้งวัน การตื่นสายยื้อเวลาไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ความเกียจคร้านเข้าครอบงำจะทำให้แรงจูงใจหมดไป และอาจเปลี่ยนใจจากคอมพิวเตอร์มาที่หมอนแทน

2.จัดตารางเวลาทำงานที่บ้านเหมือนที่ทำในสำนักงาน การทำงานไปเรื่อยแบบไม่มีเป้าหมายอาจหมดไฟหรือเสียสมาธิไปกับอย่างอื่นได้ง่าย ควรวางแผนว่าเวลาไหนควรทำงาน หยุดพักตอนไหน และทำให้เสร็จตามกำหนด วิธีการหยุดพักควรหยุดจริง ๆ ลุกออกจากโต๊ะทำงานไปเดินเล่นข้างนอกหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ในบ้าน ไม่ควรเปิด YouTube ดูคลิปหรือใช้โซเชียลมีเดีย

3.การทำงานจากที่บ้านไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่กับบ้าน ถ้าในบ้านมีเสียงดังและสิ่งรบกวน เปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศไม่ได้จริง ๆ ลองมองห้องสมุด ร้านกาแฟ หรือหรือสถานประกอบการอื่น ๆ ที่เปิดใช้งาน Wi-Fi เพื่อใช้เป็นออฟฟิศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเงียบช่วยให้ทำงานได้ดีกว่า ควรจัดพื้นที่ทำงานโดยเฉพาะและเป็นสัดส่วนเพื่อให้ตั้งใจทำงานจริงจัง ช่วยให้มีสมาธิและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4.ตั้งเป้าหมายไม่ยุ่งกับ Facebook, Line และโซเชียลมีเดียในระหว่างทำงาน ถึงจะเปิดดูเพียงสองสามนาทีแม้ไม่เสียเวลามากแต่ก็ทำให้เสียสมาธิในการทำงานโดยไม่รู้ตัว และส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ควรกำหนดเวลาการเข้าเช็คอีเมลและลบการแจ้งเตือนอัตโนมัติ

5.เลือกเวลาที่ทำงานแล้วมีประสิทธิผลสูงสุด เมื่อทำงานที่บ้าน แน่นอนว่าไม่มีใครกำหนดเวลาทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น คนเรามีเวลาที่พร้อมทำงานแตกต่างกัน ควรใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ได้ประสิทธิผลมากที่สุด หากตอนเช้าวุ่นวายกับการส่งลูกไปโรงเรียนและงานบ้านอื่น ๆ จนเหน็ดเหนื่อยส่งผลให้แรงจูงใจในการทำงานลดลง แนะนำให้ทำภารกิจทุกอย่างให้เสร็จ ดื่มชาหรือกาแฟให้ตื่นตัวและตั้งสมาธิให้ดี จากนั้นจึงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

6.จดจ่อกับสิ่งที่ทำ เรียนรู้วิธีจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าไขว้เขวเพราะจะทำให้เสียเวลาและเสียแรงทำงานมากขึ้น หากทำได้ตามคำแนะนำ คุณจะพบว่าสามารถทำงานเสร็จเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ในการทำงานทุกอย่างจะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าวันพรุ่งนี้จะทำงานอะไรบ้าง มีวินัยกับแผนงาน ยืดหยุ่นได้ตามต้องการแต่จะต้องไม่บ่อยนัก แนะนำให้ทำปฏิทินออนไลน์และแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลา ซึ่งจะช่วยให้บริหารจัดการเวลาทำงานที่บ้านง่ายขึ้น