เทคนิคทำงานที่บ้านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

เทคนิคทำงานที่บ้านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

ทุกวันนี้การทำงานที่บ้านเป็นทางเลือกที่สะดวกและยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ก็ถือเป็นการประหยัดเวลาเดินทางซึ่งน่าจะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ปรากฏว่าผลงานกลับลดน้อย เนื่องจากขาดสมาธิและแรงจูงใจในการทำงาน มีสิ่งรบกวนเข้ามาแทรกตลอดเวลา อีกทั้งขาดการวางแผนอย่างเหมาะสมด้วย ไม่เพียงประสิทธิภาพลดลงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ใช้เวลาทำงานมากกว่าเดิม ใครพบปัญหาในลักษณะนี้เรามีเคล็ดลับการทำงานที่บ้านที่ทำตามได้ง่าย ๆ มาฝากกันดังนี้

1.เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันทำงานตามปกติ แต่งชุดสุภาพเพื่อกระตุ้นสมองให้มีความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่ไม่ถึงกับสวมเสื้อผ้าเป็นทางการ การทำงานที่บ้านมีข้อดีตรงที่มีความอิสระแต่ใช่ว่าจะสวมอะไรก็ได้ ถ้าเป็นกางเกงขาสั้นหรือชุดนอนยิ่งไม่เหมาะสม การทำตัวตามสบายเกินไปทำให้ขาดแรงจูงใจอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ถ้าบ้านเป็นโฮมออฟฟิศอาจมีลูกค้าติดต่อขอเข้ามาพบ อาบน้ำสวมชุดให้ดูเรียบร้อยจะได้ไม่เสียเวลาแต่งตัวใหม่

2.เลือกโฮมออฟฟิศที่เหมาะสม ซื้อและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ถือเป็นต้นทุนที่ช่วยให้โฟกัสกับงานได้เต็มที่และผลงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดห้องทำงานต้องไม่มีเตียงหรือโซฟา ไม่มีโทรทัศน์เป็นสิ่งล่อใจให้เสียสมาธิ การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมแบบสำนักงาน มีห้องทำงานหรือโต๊ะทำงานที่มุมห้องซึ่งแยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่อื่น ๆ ในบ้าน ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นมุมที่มีหน้าต่างรับแสงแดดธรรมชาติและมีเก้าอี้นั่งสบายได้ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวันโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า

3.จัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีคุณภาพ การทำงานจากบ้านมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคืออิสระในการทำงานตามเวลาที่สะดวก แต่ถ้าอุปกรณ์ไม่ดี อีกทั้งสัญญาณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียรหรือระบบล้าสมัย ก็จะทำให้หงุดหงิด การทำงานไม่ราบรื่น หรืออาจพลาดงานครั้งสำคัญไป จึงต้องศึกษาข้อมูลและเลือกระบบที่เหมาะสมและราคาไม่แพง ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานได้มากขึ้น

4.กำหนดตารางเวลาให้เหมาะสมวันละ 8 ชั่วโมง การทำงานที่บ้านเป็นช่วงเวลาอิสระ ถ้าจิตใจจดจ่ออยู่กับงาน อาจไม่รู้ว่าเลยเวลาผ่านไปนานเท่าไร การทำงานเกินเวลาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจะกลายเป็นคนบ้างาน เกิดความเครียดและร่างกายอ่อนล้าซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ วิธีที่ดีคือกำหนดชั่วโมงทำงานอย่างเหมาะสมและไม่หักโหมเกินไป ถ้ามีงานกองโตต้องทำให้เสร็จ แนะนำให้ต่อรองขยายเวลาส่งงานไปอย่างน้อย 1 วันเพื่อให้ทำงานได้เสร็จและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน เมื่อเลือกทำงานที่บ้านควรกำหนดชั่วโมงการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและสมดุลกับชีวิตส่วนตัว ถ้ามีนิสัยทำงานเพลินจนลืมเวลา ก็ควรตั้งนาฬิกาจับเวลาและทำงานอย่างทุ่มเทตั้งใจ มีช่วงพักเบรกเพื่อพักผ่อนสายตาเป็นระยะ หยุดได้ทันทีเมื่อถึงเวลาเลิกงาน

5.วางแผนการทำงานให้เรียบร้อย ติดตามความคืบหน้าว่าใช้เวลาทุกชั่วโมงในแต่ละวันอย่างไรเพื่อประเมินประสิทธิภาพและรู้ว่าเสียงานไปกับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง จัดลำดับความสำคัญว่างานใดสำคัญกว่าหรือมีกำหนดส่งก่อนให้เร่งทำให้เสร็จก่อน ทำงานเสร็จแล้วควรกินให้ตรงเวลา นอนหลับวันละ 6-8 ชั่วโมง รับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงเพื่อให้ร่างกายมีพลังและกระปรี้กระเปร่า

การทำงานที่บ้านให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด จึงขึ้นอยู่กับการจัดสภาพแวดล้อมให้พร้อมกับการทำงาน รวมไปถึงการบริหารเวลาอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีสมาธิในการทำงานได้อย่างเต็มที่