การ Work from home ทำให้หลายคนติดใจการทำงานที่บ้าน แต่เมื่อต้องกลับมาทำงานประจำที่ออฟฟิศก็ทำให้ต้องมีการปรับตัวกันค่อนข้างมากเหมือนกัน ทำให้หัวหน้างานหลายคนเกิดความลังเลว่าการทำงานที่บ้านกับการทำงานที่ออฟฟิศ แบบไหนจะได้งานมากกว่ากัน ซึ่งทั้ง 2 แบบ ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
การทำงานที่บ้าน (Work from home)
ข้อดี
1. พนักงานมีสมาธิในการทำงานและมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น
2. การประสานงานหรือการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานดีขึ้นในมุมของความไม่เป็นทางการ
3. การทำงานมีความยืดหยุ่นให้เหมาะกับ Lifestyle
4. พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
5. ลดอัตราการลางานและการลาออกจากงาน
ข้อเสีย
1. เป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต
2. บางครั้งมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขณะมีการประชุม
3. หากมีปัจจัยรบกวนที่บ้านอาจทำให้การทำงานไม่ราบรื่น
การทำงานที่ออฟฟิศ (Work at office)
ข้อดี
1. สภาพแวดล้อมในออฟฟิศกระตุ้นให้เราอยากทำงาน
2. มีทรัพยากรขององค์กรที่ช่วยสนับสนุนการทำงานอย่างครบถ้วน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ
3. สามารถประสานงาน และติดต่อกันได้แบบ Face to face ที่บางครั้งทำให้สื่อสารได้เข้าใจง่ายกว่าการติดต่อทางออนไลน์
4. สามารถจัดการประชุม หรือจัด KM (Knowledge Management) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดในรูปแบบออนไลน์
ข้อเสีย
1. ในองค์กรที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดีจะทำให้พนักงานไม่อยากทำงาน ส่งผลให้ผลงานออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
2. พนักงานต้องเสียเวลาในการเดินทางไป – กลับ จากที่อาศัยไปที่ทำงาน
3. มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น
4. การทำงานมักมีการกดดันมากกว่าทำให้พนักงานมีความเครียดได้ง่ายกว่า
5. การทำงานไม่ยืดหยุ่น ไม่สามารถปรับให้ตรงกับ Lifestyle ของตนเองได้เท่าที่ควร
หากถามว่าทำงานที่บ้านกับทำงานที่ออฟฟิศ แบบไหนได้งานมากกว่ากัน คงต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของการและการกำหนดดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน หรือ KPI (Key Performance Indicator) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานกับมาตรฐานหรือเป้าหมายของงานตามที่ตกลงกันไว้ ในบางองค์กรไม่ว่าจะทำงานที่บ้านหรือทำงานที่ออฟฟิศก็อาจได้ผลลัพธ์ในการทำงานที่ไม่แตกต่างกัน เพราะมีการกำหนดตัวชี้วัดที่มีคุณภาพ ทำให้ไม่ว่าพนักงานจะทำงานที่ไหนก็ตาม ผลลัพธ์หรือเป้าหมายขององค์กรก็ยังจะต้องสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นเดิม
จะเห็นได้ว่าทั้งการทำงานที่บ้านหรือที่ทำงานก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งในมุมหัวหน้างานนั้นอาจต้องพิจารณารูปแบบของงานและลักษณะนิสัยของลูกน้องร่วมด้วย เพื่อให้ได้งานออกมาที่มี Output และ Outcome ที่มีประสิทธิภาพ สามารถพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้