หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิด ทำให้หลายบริษัทปรับตัวและปรับรูปแบบการทำงาน และเริ่มมีแนวคิดให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ตามโอกาส หลายคนคงเห็นด้วยว่าการทำงานที่บ้านสร้างความสะดวกสบายในแง่ของการเดินทางได้เป็นอย่างดี แต่บางทีกลับมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะไม่สามารถบริหารการทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคที่ทำให้การทำงานที่บ้านและส่งผลดีต่อสุขภาพด้วยจึงต้องถูกนำมาปรับใช้ในชีวิตการทำงานของทุกคนมากขึ้น
- ลุกไปผ่อนคลายร่างกายและสายตาบ้าง
อย่านั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะทำงานที่บ้าน จึงไม่มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับใคร แถมไม่มีเพื่อร่วมงานชวนไปพักระหว่างวัน หลายคนจึงเผลอนั่งจ้องหน้าจอยาวติดต่อกันหลายชั่วโมง สิ่งนี้จะส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อย ตาล้า และอาจลงเอยที่การเป็นออฟฟิศซินโดรมในที่สุด ดังนั้นต้องหมั่นลุกออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง
- กำหนดเวลาทำงานให้ชัดเจน
ควรมีการจัดตารางการทำงานให้ชัดเจน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพราะการไม่กำหนดเวลางาน อาจจะทำให้พนักงานมีโอกาสทำงานเกินเวลา หรือลืมเวลาพักจนไม่ได้รับประทานอาหารในเวลาที่เหมาะสมไปเลย ดังนั้นทุกคนต้องรู้จักเคารพกฎของตนเอง ด้วยการกำหนดเวลาเริ่มและเลิกงาน รวมถึงเวลาพักตามความเหมาะสม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
อย่าอดน้ำระหว่างการทำงาน เพราะการประมวลผลของสมองต้องใช้น้ำเป็นองค์ประกอบ เพราะทำงานอยู่บ้าน ที่สามารถเดินไปห้องน้ำได้ตลอดเวลา แถมยังเป็นห้องน้ำที่บ้านที่เราไว้ใจที่สุดอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องห้องน้ำ แล้วดื่มน้ำเข้าไป นอกจากจะส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง ยังช่วยให้สดชื่น ทำให้ผิวสดใส ตาไม่แห้งอีกด้วย
- จัดพื้นที่การทำงานแยกออกไปจากพื้นที่ปกติ
อย่าทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ทพงานบนเตียง เพราะจะทำให้รู้สึกไม่สดใส แถมอาจจะส่งผลให้นอนไม่หลับในเวลากลางคืน เพราะสมองเคยชินว่าต้องทำงานเวลาอยู่บนเตียง ควรแบ่งพื้นที่ทำงานให้เป็นสัดส่วน จัดวางพื้นที่อย่างเรียบง่าย ทำให้รู้สึกสะดวกสบายในการทำงาน
- เตรียมตัวเหมือนออกไปทำงานที่ออฟฟิศ
ไม่ใช่ว่าทำงานที่บ้าน แล้วจะปล่อยตัวเองให้กระเซอะกระเซิง ไม่อาบน้ำ ไม่แต่งตัว ตลอดทั้งวันได้ เมื่อตื่นเช้าแล้ว ควรลุกออกไปอาบน้ำเตรียมตัวเหมือนจะต้องเดินทางไปออฟฟิศ เพราะจะทำให้รู้สึกสดใส ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมต่อการทำงานในแต่ละวัน ถ้ามีใครคอลมาเพื่อประชุมออนไลน์ จะได้รับสายได้ทันท่วงทีอีกด้วย
เทคนิคการดูแลสุขภาพขณะทำงานที่บ้านที่เอามาฝากในวันนี้สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวันตามที่คุณสะดวกได้เลย ขอให้จำไว้เสมอว่าสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนต้องให้ความใส่ใจและสร้างสุขนิสัยที่ดีให้กับตนเอง อย่าปล่อยออฟฟิศซินโดรมถามหาแล้วค่อยปรับพฤติกรรม เพราะถึงตอนนั้นอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คิดถึงจะหายป่วย