บาลานซ์ชีวิตที่เหนือกว่าด้วยการทํางานที่บ้าน

บาลานซ์ชีวิตที่เหนือกว่าด้วยการทํางานที่บ้าน

อันที่จริงแล้ว รูปแบบการทำงานจากที่บ้านหรือ work from home นั้นมีมานานพอสมควรแล้ว แต่ก็ต้องถือว่าในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิดที่ผ่านมา ด้วยเหตุจำเป็นที่ต้องเว้นระยะห่าง ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องปรับเปลี่ยนมาให้พนักงานทำงานจากที่บ้านกันครั้งใหญ่เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างจะกะทันหัน แต่ก็ดูเหมือนว่า ในที่สุดแล้วทุก ๆ คนก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับ work from home ได้ในที่สุด และที่มากไปกว่านั้นก็คือ ทั้งนายจ้างเอง รวมทั้งลูกจ้างพนักงาน ต่างก็ได้เล็งเห็นแล้วว่า การทำงานจากที่บ้านนั้น ก็สามารถสร้างผลลัพธ์งานที่มีประสิทธิภาพ ได้เช่นเดียวกับการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศสำนักงาน

ด้วยประโยชน์และข้อดีที่มากมายสำหรับทั้งนายจ้าง พนักงาน เศรษฐกิจ และรวมถึงโลกใบนี้ ดังนั้นเรามาดูกันว่า work from home จะช่วยให้คุณบาลานซ์ชีวิตของคุณได้สมดุลขึ้นได้อย่างไร

1. การทำงานที่บ้านช่วยลดความเครียด เพราะคุณสามารถนำเวลาที่ใช้ไปกับการเดินทางอันน่าเบื่อ โดยเฉพาะในช่วงเร่งรีบรถติดอย่างตอนเช้า ๆ เย็น ๆ มาใช้ออกกำลังกาย หรือจิบกาแฟร้อน ๆ ผ่อนคลายให้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้มากกว่า ลองนึกถึงว่า มันจะดีแค่ไหนที่คุณสามารถไปส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียนได้ด้วยตัวเอง แถมยังเหลือเวลามากพอที่จะมาเปิดวิดีโอออกกำลังกายตามครูฝึกอยู่ที่บ้าน ก่อนที่จะเริ่มทำงานตามเวลาเข้างานของสำนักงาน ชีวิตที่ง่ายกว่า รีบเร่งน้อยเช่นนี้ ช่างเป็นชีวิตที่เหมือนในฝันจริง ๆ ใช่ไหมล่ะ

2. การทำงานที่บ้านช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดได้มากจริงๆ ทั้งในส่วนของนายจ้าง และพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์ รวมถึงค่าใช้จ่ายทางสังคมต่างๆ ที่พ่วงมาจากชีวิตการทำงานในสำนักงาน สำหรับนายจ้างนั้น แน่นอนว่าการพนักงานที่ทำงานที่บ้านนั้น ย่อมช่วยประหยัดรายจ่ายหลายส่วนลงไปได้อย่างเห็น ๆ ทั้งในเรื่องของสถานที่ และรายจ่ายทางด้านสาธารณูปโภค ซึ่งโดยปกตินายจ้างต้องแบกรับสำหรับการเปิดสำนักงานในทุก ๆ วัน 

เหนือสิ่งอื่นใด work from home สามารถช่วยคุณบาลานซ์ชีวิตของคุณได้มากกว่า คุณจะสามารถมุ่งมั่นต่อการทำงาน ไปพร้อมๆ กับที่คุณจะได้มีเวลาสำหรับใส่ใจต่อสุขภาพ และดูแลครอบครัวของคุณได้มากกว่า ภายใต้การใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ไม่รีบเร่งนั้น ช่วยลดความเครียดและทำให้คุณมีจิตใจที่ผ่อนคลายมากกว่า ซึ่งจะส่งผลดีกับการทำงานด้วย เพราะจากรายงานวิจัยกล่าวว่า พนักงานที่มีระดับความเครียดน้อยกว่านั้น จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า นอกเหนือจากนั้น การเดินทางที่ลดลงยังช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โลกของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นไปด้วย ถูกใจสายกรีนแน่ ๆ  เห็นอย่างนี้แล้วก็มาร่วมกันเลือกทำงานที่บ้านกันเถอะ